Category: รู้ไว้ใช่ว่า

  • ๔๔ วิธีประหยัดน้ำมัน จำให้ขึ้นใจ

    เมื่อครั้งตอนสมัยเรียนอนุบาลและประถม เราเคยท่อง ก.เอ๋ย ก.ไก่… ข.ไข่อยู่ในเล้า… ฃ.ขวดของเรา เอ้า ค.ควายไถนา… กันมาแล้ว พอเข้ามัธยมหัวเกรียน เราก็ท่องแบบลดคำ ก.ไก่… ข.ไข่… ฃ.ขวด… ค.ควาย… ฅ.คน… จบบ้างไม่จบบ้าง เข้ายุคมหาลัย ก็ท่องแข่งกับเพื่อน กอ… ขอ… คอ… งอ… จอ… ฉอ… ชอ… ซอ… … … ใครท่องได้รวดเดียวจบถึง ฮอ นี่เท่โคตร (ขนาดพิมพ์เองยังไปไม่เป็นเลย :stare: ) เริ่มทำงาน เริ่มเล่นเนต กลายเป็น ก.เอ๋ย ก.ไก่… ข.ไข่อยู่ในกางเกง… ค.*ปี๊บ*โตงเตง… :devil: แต่ยุคนี้ที่น้ำมันแพงกว่าข้าวผัดกระเพราไก่ (+ไข่ดาวไม่สุกด้วย) เรา(ต้อง)หันมาท่องแบบนี้กันแล้ว…  มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน เพื่อความอวบอ้วนของกระเป๋าตังค์ครับ :angel: เพิ่มเติม ๒๓ ธ.ค. รู้ไหมเอ่ย? ว่าที่เราท่อง…

  • ๑๐ นิสัยที่ทำร้ายสมอง

    ๑. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม  ๒. กินอาหารมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น  ๓. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อ และเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์  ๔. ทานของหวานมากเกินไป จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาสมอง  ๕. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง  ๖. การอดนอน เป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้ ส่วนการนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน ๗. นอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง  ๘. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว  ๙. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ  ๑๐. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง   บางข้อไม่รู้เลยนะเนี่ย ทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยังไงก็อย่าลืมหันมาเอาใจใส่กันด้วยนะครับ สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญ :queen:

  • เทคนิคการหั่นแตงโม

    เอาล่ะ ทีนี้จะได้กินแตงโมอย่างมูมมามเอร็ดอร่อยซะที ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะกัดโดนเม็ด (บางทีก็เผลอกลืนไอ้เม็ดขาวๆเข้าไปด้วย :S ) ไม่รู้ที่มาต้นตอ ใครรู้ช่วยบอกทีครับ

  • ๗ นิสัยต้องห้ามเวลาอยู่ในที่ทำงาน

    เจอมาเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ ๑. อย่างแรกเลยคือ การมาสายเป็นประจำ คนที่มาทำงานสายเป็นประจำ สื่อให้เห็นว่าไม่ค่อยนึกถึงคนอื่น ไม่สนใจความรู้สึกใครนอกจากตนเอง ๒. เป็นคนขาดระเบียบ สังเกตง่ายๆจากโต๊ะทำงานของคุณ ถ้ารกและเลอะเทอะไม่มีระเบียบ หาของยาก แสดงว่า…นั่นแหละ ๓. ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้าบนโต๊ะคุณเต็มไปด้วยเอกสารที่รอเวลาจัดการอยู่เต็มไปหมด หรือมักจะทำงานเสร็จตอนเส้นยาแดงผ่าแปดทุกครั้ง มันก็จะส่อให้เห็นว่า… บางทีเหมาข้อสองไปด้วยเลยก็ได้นะ ๔. พูดหยาบคายลามกไม่สุภาพ สิ่งนี้นอกจากจะทำให้เพื่อนร่วมงานรับไม่ได้แล้ว ยังทำให้ขาดความเคารพจากคนรอบข้างอีกด้วยครับ ๕. ใช้โทรศัพท์บริษัทในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ จะแสดงให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจทำงาน และไม่มีความเกรงใจเพื่อนร่วมงานรวมถึงองค์กรอีกด้วย ๖. เกี่ยงงานหรือโยนงานที่ตัวเองรับผิดชอบให้คนอื่น จะทำให้ไม่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แล้วยังอาจถูกลดความไว้วางใจและหมดความสำคัญไป ๗. สุดท้ายคือ ชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น แสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบ และไม่กล้าที่จะเผชิญปัญหา สิ่งนี้แสดงถึงความเป็นเด็กในตัวคุณเองครับ เป็นยังไงบ้างครับ? ใครที่มีนิสัยข้างต้น ก็รีบหาทางแก้ไขปรับปรุงกันนะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อชาติเพื่อตัวคุณเอง ถ้างั้นก็ขอจบดื้อๆแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ เพราะผมเองก็ต้องรีบเหมือนกัน เล่นซะหลายข้อเชียว :devil:

  • ๑๐ วิธีรักษาสุขภาพง่ายๆสำหรับคนทำงาน

    พอดีไปเจอมา เลยเก็บมาฝากครับ ๑. กินกล้วยวันละ ๒ ใบ ลดความเสี่ยงในการเกิดการเป็นลม เนื่องจากสมองขาดเลือดลงได้ ๒๐ % ๒. เปลี่ยนไส้แซนวิชของคุณจากแฮมเป็นปลาทูน่า ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจได้ ๒๕ % ๓. จูบลาแฟนคุณทุกเช้าและทักเธอทันทีเมื่อถึงบ้าน :kiss: ทำชีวิตสมรสคุณให้ดีขึ้นภายใน ๑ สัปดาห์ ๔. ลดการทำงานลงวันละ ๑ ชั่วโมง จะช่วยชะลอการเสียชีวิตออกไป จากการศึกษาในประเมศญี่ปุ่นพบว่า ผู้ชายที่ทำงานมากกว่า ๑๑ ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสหัวใจวายมากกว่าคนปกติที่ทำงานถึง ๒.๕ เท่า ๕. เดินไปส่งเอกสารให้เพื่อนร่วมงานแทนการส่งอีเมล ช่วยลดน้ำหนักลงได้ ๐.๕ กิโลกรัมต่อปี ๖. หลังจากออกกำลังกายอย่างหนักให้ทานวิตามินซี ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดลง ๕๐ % ๗. กินอาหารเช้าทุกวัน ลดน้ำหนักได้ทันที ทั่วไปแล้วผู้ชายที่เว้นกินอาหารเช้าจะกินอาหารมากกว่านั้นในช่วงต่อมา และมักจะเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและคาร์โบไฮเดรต ๘. ดื่มน้ำเย็นวันละ ๔.๕ ลิตร ทุกวัน ลดน้ำหนักลงได้ ๐.๕…