เหมียวของใคร ใครก็ไม่ห่วง

บ้านคือที่ที่เราอยู่พักอาศัย หลับ กิน ขี้ นอน ใครบ้างที่ไม่รู้จักบ้าน คงไม่มี แต่ใครบ้างที่ไม่มีบ้าน อันนี้อีกเรื่องนึง ไม่เกี่ยว ลองเดินออกมาหน้าประตูบ้าน หันหลังกลับไปมองบ้านเต็มๆสองตา หรี่ตาซ้าย ปิดตาขวา ยังไง๊ ยังไง มันก็ยังเป็นบ้าน(อาจจะไม่ถ้าหลับตา) แต่มีบางคนมองว่าบ้านผมเป็นวัด!!! :sweat:

อยู่ดีๆในเย็นวันหนึ่ง บ้านผมมีสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามาในบ้าน นั่นก็คือ ลูกเหมียว ครับ ตัวกะเปี๊ยกเดียวเอง อายุน่าจะไม่เกินเดือน ใครไม่รู้แอบเอามาปล่อยที่บ้าน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้บอกได้คำเดียวเลยว่า ซวยแล้วสิครับ

แค่ลำพังกองทัพแมวเหมียวที่บ้าน ที่แม่ผมอุปการะเลี้ยงดูไว้เพื่อคลุกข้าวให้เหนื่อยเล่นๆยามว่างนั้น ก็ถือว่าโคตรจะเปลืองแล้วครับ อ้อ จาก ครั้งนั้น แม่เฉลยแล้วว่าเหมียวนินจาที่บ้านมี ๗ ตัวพอดิบพอดีครับ ไม่ขาดไม่เกิน และด้วยเหตุนี้ เจ้าลูกเหมียวสมาชิกใหม่จึงไม่เป็นที่ต้องการนัก แต่แม่คลุกข้าวป้อนน้ำให้แขกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โอ้ว คุณแม่ตัวอย่าง :thumbsup:

ตกกลางคืน ลูกเหมียวมันร้องแง้ว แง้ว แง่ว แงว แง้ว แง๊ว เกือบทั้งคืน(หรือเปล่าไม่รู้ เพราะผมหลับไปก่อน) รำคาญก็รำคาญ สงสารก็สงสาร ไอ้ผมก็ฟังภาษาแมวไม่ออกซะด้วย เลยไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร ทำไงได้ล่ะครับ ถึงจะเสียงดีขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าร้องผิดคีย์นี่ก็ไม่ไหว ผมจึงหยิบมือถือ กด sms โหวตออกโดยพลัน ใจร้ายมาก :devil:

เช้าวันรุ่งขึ้น เหล่าคณะกรรมการจึงได้ลงมติเห็นชอบว่า เอาไปปล่อยวัดเถอะลูก ด้วยคะแนนเสียงโหวตที่มากกว่าจำนวน ๑ เสียงนั้น

นั่น ไฟเขียวแล้ว จะมัวช้าอยู่ใย ผมจัดแจงหยิบลูกเหมียวใส่ตระกร้าหน้ารถเฟอรารี่สีแดงคันงาม แล้วออกสตาร์ทโดยทันที ก่อนที่ไฟสัญญาณมันจะแดง บรื้น … บรื้น … บรื้น

.

.

“หลวงตาครับ ผมเอาลูกแมวมาฝาก”

ลูกเหมียวโดนทิ้ง